M2MC แนะนำ ทาริฟใหม่สำหรับอุปกรณ์ IoT ในโซนยุโรป

 

    สำหรับการใช้งาน IoT นั้นก็มีเรื่อง subscription หรือการจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ ซึ่ง M2MC ผู้น้ำที่ให้บริการด้าน IoT ได้เปิดบริการ miotiq ที่ขยายการบริการอุปกรณ์ซึ่งรองรับการใข้งานบนทาริฟของฝั่งยุโรปเรียบร้อย

 โดย M2MC มีลงทุนด้านอุปกรณ์ IoT ที่รองรับการใช้งานการประหยัดพลังงานในปัจจุบัน (NB-IoT) และเครือข่าย LTE-M ซึ่งเป็นการลงทุนในระยะยาว ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูชั่นและการให้บริการด้าน เทคโนโลยี IoT ให้รองรับการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งของแผนก็คือการ ประกาศเปิดการใข้งานครั้งแรกในแบบ mass หรือรองรับการใช้งานทั่วไปในรูแบบของ IoT tariff ในกลุ่มประเทศยุโรป 18 ประเทศ

งานนี้ทางฝั่งยุโรปมีให้บริการที่ราคา 9.90 ยูโร หรือประมาณ 375.50 บาท ซึ่งจะรวมการพัฒนาการใช้งานแอปพลิเคชั่น การวางระบบ IoT Solution สำหรับผู้ให้บริการหรือผู้ใ้ช้งาน ซึ่งเรียกรวมกับว่าเป็น miotiq subcription แน่นอนว่ายังได้รับ universal sim ที่ใช้งานสำหรับ Narrow-Band และ LTE-M ในยุโรป ทั้งหมด 3 ปี โดยราคานี้ไม่ได้แจ้งไว้ว่าเป็นราคาต่อเดือนต่อ 1 ผู้ใช้งานหรือ 1 อุปกรณ์ หรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นราคา 3 ปีต่อ 1 ผู้ใช้งานก็ถือว่าถูกมาก แต่ถ้าต่อ 1 อุปกรณ์ก็ยังถือว่าถูกเช่นกัน แต่ถ้าต่อเดือนก็ต้องคิดกันหน่อย

รายละเอียดเพิ่มเติมคือ จะได้รับ data package ปริมาณ 500Kb ต่อเดือน ซึ่งเพียงพอกับตัวอย่างเช่น รายงานที่ส่งกลับมาปริมาณ 1000 รายงานต่อ 1 อุปกรณ์ต่อเดือน และบริการนี้รองรับการโรมมิ่ง นั่นหมายความว่ารองรับการมอนิเตอร์หรือการใช้งานนอกพื้นที่ที่ให้บริการในปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องดูเงื่อนไขการโรมมิ่งอีกครั้ง

เราจะเห็นเทรนด์การให้บริการ และการคิดค่าบริการ ของผู้ให้บริการในต่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่าการเก็บค่าบริการลักษณะนี้จะกระจายไปยังประเทศโซนต่างๆ รวมถึงในประเทศไทยด้วย แต่ก็ต้องดูว่ามีการปรับใช้งานให้เหมาะกับแต่ละประเทศอย่างไร ซึ่ง ค่าบริการ 375.50 บาทต่อเดือน กับการใช้งาน solution พร้อม data ที่อุปกรณ์ก็อาจจะเป็นมาตรฐานในการตั้งราคาในอนาคตต ซึ่งเราต้องมาพิจารณารายละเอียดว่าอุปกรณ์ IoT ที่เราได้รับบริการนั้นมีข้อจำกัดที่กี่อุปกรณ์ หรือมีเงื่อนไขอะไรเป็นข้อจำกัดหรือไม่ต่อไป

ที่มา iotbusinessnews

LoRaWAN ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ผ่านมาตรฐานสากล ITU

     ในที่สุด ITU ก็ยอมรับ LoRaWAN เป็นมาตรฐานสากลไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับการใช้งานแบบพลังงานต่ำ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดี สำหรับ LoRaWAN ที่จะกลายเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกสามารถนำไปใช้งานได้โดยผ่านมาตรฐาน และมีหน่วยงานกลางรับรอง

ITU หรือ International Telecommunication Union เป็นองค์กรกลางที่ทั่วโลกยอมรับมาตรฐานต่างๆ ที่ออกมาเพื่อใช้งานร่วมกันทั่วโลก ซึ่ง LoRaWAN เองแม้ว่าจะได้รับการยอมรับในวงกว้างสำหรับการใช้งานที่เป็นมาตรฐานมาสักพักใหญ่ แต่ทว่าล่าสุดเพิ่งได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานกลางสากลที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก

การใช้งานบน LoRaWAN จะเติบโตขึ้นอีกเป็นวงกว้าง รวมถึงปัญหาต่างๆ ในการนำเข้า ใช้งาน หรือการนำไปใช้งานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเอง ที่ปกติแล้วมีขั้นตอนต่างๆ และมาตรฐานทางด้านเอกสารและการรับรอง ต่อไปนี้ก็จะทำให้อุตสาหกรรมด้าน IoT เดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น แม้ว่า LoRaWAN เองจะได้รับการยอมรับกันมานานแล้วก็ตามที แต่ในบางประเทศอาจจะมีปัญหาทั้งเรื่องการนำเข้า และการนำไปใช้งานจริง ที่หน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศอาจจะยังติดขัดด้านเอกสารและการรับรองมาตรฐานต่างๆ นั่นเอง

มาตรฐานที่ยืนยันใช้ง้านคือ ITU-T Y.4480 ซึ่งเป็นหัวข้อเกี่ยวกับ โปรโตคอลการใช้พลังงานต่ำสำหรับเครือข่ายไร้สายในวงกว้าง ( Wide area wireless network) 

ที่มา iotbusinessnews

Forecaster คาดการณ์ ชิปผลิตอุปกรณ์ IoT จะลดลงอีก 10-15% ในปีหน้า

 

เป็นข่าวคราวที่ได้รับทราบกันมาในปีนี้ และแน่นอนว่ามีผลกระทบไปจนถึงปีหน้า หลักใหญ่ใจความคือสถานการณ์จาก COVID-19 นั่นเอง รวมถึงการค้าขายที่มีปัญหาไต้หวัน ซึ่งอุปกรณ์ IoT เองก็จะยังโดนผลกระทบและคาดว่าจะมีการผลิตลดลงอีก 10-15% ในปีหน้า

บรรดาผู้ผลิตต่างก็ได้รับผลกระทบจากปัญหา COVID-19 มีผลต่อกำลังการผลิต และแน่นอนว่าการทำงานในโรงงานผลิตนั้นต่างก็ลดลง และพนักงานเองก็ต่างอยากจะทำงานที่บ้านแทนเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก  โดยคาดว่าเหตุการณ์ชิปขาดแคลนจะคลี่คลายตอนกลางปี 2023 หรืออีก 1 ปี ครึ่ง จึงจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ ซึ่งไม่เฉพาะอุปกรณ์ IoT เท่านั้น แต่ยังจะรวมถึงอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์อื่นๆอีกด้วย

อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ IoT เป็นกุญแจสำคัญหลักที่จะช่วยให้การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น และเป็นไปเป้าหมายของความยั่งยืนที่เป็นส่วนหนึ่งของ COP26 Climate Change Summit อีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วจะมีความต้องการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการประหยัดพลังงานและบริหารจัดการเรื่องพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

iotNews

Semtech เตรียมอัปเกรด LoRa Developer Portal

       Semtech Corporation เปิดตัวการอัปเกรด LoRa Develper Portal ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาได้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้น และสามารถสร้างระบบ อุปกรณ์ IoT ด้วยมาตรฐาน LoRaWAN

    การอัปเกรด portal จะช่วยให้นักพัฒนามีความเสี่ยงในการสร้างด้วย LoRa น้อยลง ด้วยเครื่องมือและคู่มือ สำหรับนักพัฒนาแล้ว การสร้างอุปกรณ์แบบได้อย่างรวดเร็วและประหยัดงบประมาณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และ LoRaWAN สามารถตอบโจทย์ IoT Solution ได้  ซึ่งตัว portal เองช่วยให้การบริหารจัดการการใช้จำนวนทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับการเรียนรู้ตั้งแต่ พื้นฐานของ LoRaWAN การสร้างเครือข่าย การวางระบบแบบเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ และอื่นๆ อีกมากมาย

    มีการวิเคราะห์สำหรับระบบ IoT สำหรับการลงทุนโซลูชั่นใน enterprise เติบโตขึ้น 12.1% ในปี 2020 มีมูลค่ามากถึง 128.9 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งทุกวันนี้อุปกรณ์ IoT ใช้งานกับทุกธูรกิจที่ต้องการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งทางนักพัฒนาต้องการทรัยากรในการเทสและต้องการประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ เพื่อพัฒนาให้ดีที่สุด และ LoRa ตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้

สรุป LoRa Developer Portal จะมาช่วยนักพัฒนาได้หลากหลายส่วน เพื่อรองรับโซลูชั่น IoT ที่ตามมาอีกมากมายในอนาคต ช่วยให้การพัฒนาติดตั้งการทำงานจริงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย อุปกรณ์และมาตรฐานของ LoRaWAN

ต้นทาง iotbusinessnews

การใช้งานจริงครั้งแรก ของอุปกรณ์ IoT 5G ผ่าน Gateway ของเครือข่าย จะมาเร็วๆ นี้

 

  มีการวิเคราะห์สำหรับตลาด IoT จาก Berg insight ในวันนี้ได้ค้นพบว่า ตลาดสำหรับ Cellular IoT Gateway หรือการใช้งานบนเครือข่ายและเราเตอร์นั้นเป็น โอกาสใหม่ ซึ่งมีจำนวนอุปกรณ์กว่า 3.7 ล้านชิ้นในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการตลาดรวม หนึ่งพันล้านดอลล่าร์

    Gateway เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งในระบบเครือข่าย  Cellular IoT Gateway จะเป็นโอกาสใหม่ในการทำตลาด IoT ส่วนหนึ่งมาจากผลของ Covid-19 ที่ทำให้หลายโปรเจคถูกระงับเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งในปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีอุปกรณ์ลงตลาดมากก็ตามทีแต่ด้านการทำงานอาจจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย

    คาดการณ์ว่าในปี 2025 หรืออีกสี่ปีข้างหน้า มูลค่าของการส่งออกอุปกรณ์ที่รองรับ Cellular IoT Gateway จะเพิ่มขึ้น 14% ซึ่งจะมีอุปกรณ์มากกว่า 7.2 ล้านชิ้นที่มีอยู่ในระบบ และนอกจากนั้นเอง Cellular IoT Gateway จะมีผลในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันผ่านเครือข่าย รวมถึงอุปกรณ์เครือข่ายอย่างเช่น router หรือ modem ต่างๆ  ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าถูกติดตั้งอยู่ในตู้เครือข่ายเดียวกัน และอย่างน้อยก็มี 1 พอร์ทอินพุต และเอาต์พุตที่สามารถเชื่อมต่อและตรวจสอบรายงานต่างๆ ได้

     ทางด้าน Cradlepoint ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Ericsson ตั้งแต่ปี 2020 พบว่ามีการเติบโตมากกว่าตลาด ซึ่งปัจจุบันยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำตลาดอยู่ ระหว่าง Cisoco, Sierra Wireless, Digi International และ Tletonika Networks ซึ่งเป็นผู้นำหลักในยุโรป ซึ่งทั้งทั้ง 5 รายนี้ทำรายได้มากกว่า 500 ล้านดอลาร์ จากการขาย Cellular IoT Gateway และ Router ซึ่งกินส่วนแบ่งไปประมาณ 56%

    ส่วนรายอื่น เช่น MuliTech, Systech, Casa Systems และ Lantronix ในอเมริกา Robustel, InHand Networks, Peplink และ Hongdian ในเอเชียแปซิฟิค และ Asia-Pacific; and HMS Networks, Advantech, Matrix Electrónica, Netmodule และ Westermo ในฝั่งยุโรป ซึ่งในฝั่งเอเชียและยุโรปเป็นส่วนสำคัญของรายย่อยที่สามารถสร้างรายได้ในช่วงระหว่าง 3-10 ล้านดอลลาร์

ในขณะที่ จำนวนธุรกิจเพิ่มขึ้นและมีจำนวนการติดตั้งและระยะเวลาก็รวดเร็วขึ้น รวมถึงการใช้งานโซลูชั่นผ่านเครือข่ายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และจากเทรนด์นี้เป็นตัวเร่งเครือข่าย 5G อีกด้วย

จากต้นทุนต่อ GB ที่ลดลง ทำให้ โซลูชั่น 5G จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะมาแทนที่ fix broadband และอาจจะมีผลกับ subcription บน fixbroadband ตามเทรนด์การเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการของเครือข่าย 5G ทั่วโลกตั้งแต่กลางปี 2020 หลายผู้นำเข้าบริการ ก็แนะนำอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G Sub-6GHz ด้วย

ต้นทาง iotbusinessnews

Semtech และ Sincond ผนึกกำลังใช้ Smart Meter ในสวนสัตว์ที่สิงคโปร์ ด้วย LoRaWAN ลดพลังงานได้ 10%

 

     สวนสัตว์ที่สิงคโปร์ตั้งเป้าหมายไว้จะลดการใช้พลังงาน 10% เมื่อติดตั้ง เซ็นเซอร์ระบบจัดการน้ำอัตโนมัติ และระบบตรวจวัดพลังงานโดยใช้ LoRaWAN  

Semtech เป็นผู้นำการจัดจำหน่ายระดับโลกด้าน IoT ที่ผสมผสานเอาการทำงานแบบ analog ผสมเข้ากับ อุปกรณ์กึ่งสารตัวนำสำหรับส่งสัญญาณ และระบบกระบวนการคิดแบบก้าวหน้า ซึ่งได้ร่วมมือกับ Sindcond  IoT ที่สิงคโปร์ เป็นโครงการนำร่องซึ่งอยู่ในสิงคโปร์ทำเกี่ยวกับ LPWAN  และระบบ IoT

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่เกิดขึ้นที่สิงคโปร์เป็นเคสที่ใช้งานจริง โดยมีการตรวจสอบการพลังงานในสวนสัตว์ ซึ่งใช้ LoRa เป็นพื้นฐาน ซึ่งจะวางอุปกรณ์กว่า 1000 ชิ้น ทั่วทั้งสวนสัตว์ ซึ่งจะมีอยู่ 3 สวนย่อยภายใต้สวนสัตว์แห่งนี้ โดยผ่านโครงข่าย LoRaWAN จะส่งผ่านข้อมูลทุกๆ 15 นาที ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยลดการเดินสายภายในสวนสัตว์ที่มีขนาดกว้างใหญ่แห่งนี้ได้

ส่วนพื้นที่ที่มีต้นไม้หนาแน่น เรียกว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของโปรเจคนี้ แต่ทว่ามีการคิดและนำอุปกรณ์ที่เหมาะกับสภาพวะแวดล้อมไปใช้งานนั่นก็คือ smart meter ที่ติดตั้งครั้งเดียวก็ใช้งานกันไปยาวๆ 3 ปี เรียกได้ว่ากำลังจะเป็นสวนสัตว์ต้นแบบในภูมิภาคนี้เลยก็ว่าได้ที่นำ IoT เข้ามาประยุกต์ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ 

ผ่านไปเกือบสามปีแล้ว กับการใช้งานระบบ IoT กับอุปกรณ์กว่า 1000 ชิ้นในสวนสัตว์ ผ่าน LoRaWAN เรียกว่าประสบความสำเร็จมีอัตราอยู่ที่ 97% เลยทีเดียว โดย Smart meter มีติดตั้งอยู่ใน ห้องคอนโทรล Switch  และบ้านพัก พร้อมกับ พาแนลไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับ 3 สวนย่อยๆ ซึ่งสามารถวัดผลการใช้งานพลังงานต่างๆ ได้อย่างชัดเจน 

ต้นทาง iotnews

Kaspersky รายงาน การโจมตีผ่านอุปกรณ์ IoT เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า พร้อมวิธีป้องกัน

 

นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ IoT แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น ล่าสุด Kaspersky รายงานว่ามีการโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังโดนโจมตีมากกว่า 1.5 พันล้านครั้งเลยทีเดียว และยังคงเป็นเป้าหมายหลักของ Hacker ในยุคนี้

จากข้อมูลมีการโจมตีย้อนหลังไปหกเดือน มีมากถึง 639,155,942 ครั้งเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่โจมตีผ่าน telnet และ ssh และแน่นอนผ่าน web

H2 2020	H1 2021
telnet	460,703,861	872,345,837
ssh	142,245,141	514,749,073
web	36,206,940	128,619,349

Kaspersky แนะนำการป้องกันอุปกรณ์ IoT 4 ขั้นตอน

- ติดตั้งอัปเดทเฟิร์มแวร์ใหม่อย่างสม่ำเสมอ

- เปลี่ยน password ในการเข้าใช้งานเป็นประจำ และตั้ง password ให้เข้าถึงยากเช่น ประกอบไปด้วยเครื่องหมาย ตัวเลข ตัวอักษรใหญ่ ตัวอักษรเล็กรวมกัน

- หมั่น reboot อุปกรณ์ให้มีการทำงานใหม่ ซึ่งจะช่วยให้การฝัง malware เดิมๆ หายไป
- ตรวจสอบและเลือกวิธีหรือเครื่องการป้องกันระบบ IoT ของคุณ ซึ่งอันนี้เค้าก็ขายของล่ะนะ แนะนำ Kaspersky ที่สามารถป้องกัน Smart Home ของคุณได้นั่นเอง

ซึ่งจากคำแนะนำของ Kaspersky นั้น ก็เป็นประโยชน์ไม่น้อย แม้ว่าอาจจะเป็นพื้นฐานของความปลอยภัยตามปกติ แต่เราก็มักจะมองข้ามมันเสมอ และที่สำคัญซอฟท์แวร์หรือ solution เครื่องมือที่เลือกใช้งานก็มีส่วนช่วยได้มากเช่นเดียวกัน

ต้นทาง iottechnews